รวมจำคุก 4 ปี 12 ด.! เพิ่มโทษ อดีตเจ้าพนง.ป่าไม้ ปัตตานี เรียกเงินแลกไม่จับกุมดำเนินคดี

รวมจำคุก 4 ปี 12 ด.! เพิ่มโทษ อดีตเจ้าพนง.ป่าไม้ ปัตตานี เรียกเงินแลกไม่จับกุมดำเนินคดี

ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา ‘นิสิทธิ์ ศักดิ์สวัสดิ์’ อดีตเจ้าพนักงานป่าไม้ 5 หน่วยประสานงานป้องกันรักษาป่า จังหวัดปัตตานี เรียกรับเงินจากผู้ถูกกล่าวหาเพื่อละเว้นไม่จับกุมดำเนินคดี ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษาเพิ่มกระทงลงโทษ รวมจำคุกเป็น 4 ปี 12 เดือน ไม่รอลงอาญา

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายนิสิทธิ์ ศักดิ์สวัสดิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานป่าไม้ 5 หน่วยประสานงานป้องกันรักษาป่า (นปป.) จังหวัดปัตตานี กับพวก เรียกรับเงินจากผู้ถูกกล่าว เพื่อละเว้นไม่จับกุมดำเนินคดีในข้อหามีไม้แปรรูปในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 , 157 ตั้งแต่เมือวันที่ 4 สิงหาคม 2559 ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 จากที่พิพากษาว่า นายนิสิทธิ์ ศักดิ์สวัสดิ์ จำเลย มีความผิดตามมาตรา 148 ประกอบมาตรา 83 จำคุก 5 ปีจำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง

คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน แก้เป็น นายนิสิทธิ์ ศักดิ์สวัสดิ์ จำเลย มีความผิดตามมาตรา 148 ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามมาตรา 91 จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 2 กระทง เป็น จำคุก 10 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง

คงจำคุก กระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 4 ปี 12 เดือน อย่างไรก็ดี สำหรับคดีนี้ ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้ เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 ได้พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุดจะไม่ฎีกาคำพิพากษาดังกล่าว

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต

มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เขียนวันที่วันพุธ ที่ 28 มิถุนายน 2566 เขียนโดย Isranews

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Scroll to Top